Hub Net Zero ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และพันธมิตร ประกาศความสำเร็จในการดำเนินงาน Carbon Management Platform ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในงานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของประเทศไทยบนเส้นทางสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero GHG Emission) โดยมี รศ. ดร. สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ. และ ศ. ดร. นวดล เหล่าศิริพจน์ ผู้อำนวยการบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) และผู้จัดการ Hub Net Zero ร่วมแถลงข่าว

Carbon Management Platform เป็นเครื่องมือดิจิทัลแบบครบวงจรที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการทุกขนาดในการติดตามและลดการปล่อยคาร์บอน นอกจากระบบจัดการข้อมูลเชิงรุกนี้ โครงการยังมีบริการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสะอาดและการวางแผนกลยุทธ์ รวมทั้งการฝึกอบรมเพื่อสร้างศักยภาพบุคลากรผ่านหลักสูตรการอบรมออนไลน์
นับตั้งแต่เปิดตัว โครงการดำเนินการร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการในพื้นที่ EEC จำนวน 3 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมกว่า 282 ราย และมีผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนใช้งานแพลตฟอร์มแล้วไม่น้อยกว่า 250 ราย ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความตื่นตัวและความพร้อมของภาคอุตสาหกรรมไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

ภายในงานแถลงข่าวยังมีการบรรยายและเสวนาในหัวข้อต่างๆ อาทิ นโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มาตรการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม โอกาสและความท้าทายในด้านการจัดการคาร์บอนและเทคโนโลยีการลดก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนกลไกทางการเงินในการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่คาร์บอนต่ำ (Green Finance) โดยวิทยากรจาก กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) สวทช. องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด และ ส.อ.ท.

งานแถลงข่าวครั้งนี้ได้นำเสนอความสำเร็จที่สำคัญและตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Hub Net Zero ในการเร่งขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก